บล็อกนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ได้ที่อยู่ในความสนใจ

วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เสื้อแดงสู้เพื่ออะไร

 "เสื้อแดง"สู้เพื่อสิ่งใด?
บทความนี้นำการวิเคราะห์ของคุณ
อภิชาต สถิตนิรามัย คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาเผยแพร่ น่าสนใจ จึงอยากจะนำมาลงไว้เพื่อเป็นกรณีศึกษา
งานวิจัยชิ้นนี้กลายเป็นว่า คนเสื้อเหลือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ พ่อค้า ชนชั้นกลาง ผู้
มีรายได้เฉลี่ยมากกว่าคนเสื้อแดง กลับมีความคับข้องใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางรายได้มากกว่าคนเสื้อแดง
    เช่นเดียวกับทัศนคติเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำทางรายได้ที่กลุ่มคนเสื้อเหลืองรู้สึกว่าช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนนั้นห่างกันจนรับไม่ได้มากกว่าที่คนเสื้อแดงคิด
    แสดงว่าคนเสื้อเหลืองคิดเรื่องพวกนี้มากกว่าคนเสื้อแดง
    ไม่น่าเชื่อที่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ ไม่คิดว่าตัวเองยากจน และไม่ได้มองเรื่องความเหลื่อมล้ำทางรายได้เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งๆ ที่มีการประกาศมาตลอดว่า คนเสื้อแดงต่อสู้เรื่องความเหลื่อมล้ำ ถึงขั้นแบ่งแยกไพร่ แยกอำมาตย์
    กลุ่มไม่ฝักใฝ่สีไหนเสียอีก ที่เป็นคนจนตามท้องไร่ท้องนา มองว่ากลุ่มตนเองยากจนแร้นแค้น
    ช่างน่าขำ มีทั้งการเสวนา ทั้งอภิปราย นับร้อยๆ เวที บางเวทีถ่ายทอดสดทางทีวี ต่างรับรู้ข้อมูลตรงกันว่า เสื้อแดงเป็นชุมนุมของผู้ยากไร้ ผู้ถูกรังแก
    สิ่งที่พูดกันไปก่อนหน้านี้เท่ากับสูญเปล่าอย่างนั้นหรือ เพราะโดยเนื้อแท้แล้วเท่ากับมีการบิดเบือนความจริงมาโดยตลอด 
    หากดูระดับการศึกษาจะพบว่า คนเสื้อเหลืองจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าคนเสื้อแดง คือ 38.46% ต่อ 18.73% แต่การศึกษาไม่อาจวัดทุกอย่างได้
    แต่บางอย่างที่วัดได้และมีความแม่นยำสูงคือ "ผลประโยชน์"
    คนเสื้อแดงคือกลุ่มคนที่ได้ประโยชน์จากโครงการประชานิยมของ "น.ช.ทักษิณ" มากที่สุด รองลงมาเป็นคนเสื้อเหลือง และกลุ่มไม่สนับสนุนฝ่ายใด
    งานวิจัยชิ้นนี้สรุปได้น่าสนใจว่า ความเหลื่อมล้ำและความยากจนทั้งในเชิงภาวะวิสัยและอัตวิสัยไม่ได้เป็นที่มาของความคับข้องใจของคนเสื้อแดง
    ซึ่งคงยืนยันได้ตามนั้น การต่อสู้ทั้งหมดของคนเสื้องแดงไม่ได้มีเรื่องชนชั้น เรื่องความเหลื่อมล้ำ และไม่ใช่เรื่องการปกป้องผลประโยชน์คือนโยบายประชานิยม เพราะนอกจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังคงไว้ซึ่งนโยบายแจกสะบัดนี้แล้ว ยังต่อยอดให้คนเสื้อแดงได้รับการดูแลไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ออกจะมากกว่าเสียอีก
    ท้ายสุด ที่คนเสื้อแดงออกมาจนก่อให้เกิดวิกฤติเผาบ้านเผาเมืองมาแล้ว 2 รอบ
    สาเหตุหลักคือบูชา "น.ช.ทักษิณ"
    ข้อเรียกร้องที่แท้จริงของคนเสื้อแดงก็คือการยุบสภา ถ้าผนวกกับแคมเปญของ "เฉลิม อยู่บำรุง" พาทักษิณกลับบ้าน ก็น่าจะชัดว่า สิ่งที่คนเสื้อแดงคิด คือผลประโยชน์ของกลุ่มตน ไม่ใช่ผลประโยชน์ของชาติ

http://thaipost.net/news/190710/25048

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Flower of the Day- ดอกLily

ดอกLily มีต้นกำเนิดจากwestern China ลำต้นสูงตรงใบแคบยาวสีเขียวเข้ม ดอกมีหลายสีสวยๆทุกสี บานทนหลายวันเหมาะสำหรับจัดแจกันไปในงานต่าง ดอกลิลี่จะดอกใหญ่มากมีเกสร 6เกสร และมีกลิ่นหอม นอกจากสีชมภูยังมีสีเหลือง สีส้มสีแดงและสีม่วง ดอกจะบานทนนานหลายวันทีเดียว
ในประเทศแถวยุโรปโดยเฉพาะอังกฤษ คนชอบดอกลิลี่เป็นที่ 2 รองจากกุหลาบ แต่ถ้าจัดอันดับทั่วโลกก็จะเป็นอันดับ4
สำหรับฝรั่ง ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ประจำราศีราศีกุมภ์ (23 มกราคม-19 กุมภาพันธ์กับราศีพฤษภ (21 เมษายน-22 พฤษภาคม
Lily IMG00424-20100715-1310

ในวันรับปริญญาหลายวันที่ผ่านมา  เห็นมีคนเอาดอกลิลี่สีเหลืองที่สวยมากๆ มาให้นักศึกษาที่จบการศึกษาอยู่เสมอๆ  ทำให้ต้องมีการถ่ายรูปเก็บไว้ดูเสียหลายรูป
ดอกลิลี่เป็นดอกไม้ที่ทั้งสวยทั้งหอมอ่อนๆ เป็นที่นิยมนำมาจัดช่อบูเกต์หรือจัดแจกันเสมอๆ
ลิลี่อยู่ในตระกูลของtulips, hyacinthsและ onionต้นลิลี่1ต้นสามารถให้ดอกได้หลายดอก
มีดอกไม้ที่มีชื่อliliesแต่ไม่ใช่liliesจริงๆก็มี เช่นดอกDaylilies แต่ยังอยู่ในlily family เนื่องจากดอกลิลี่เหล่านี้บานแค่วันเดียว แต่ดอกลิลี่ทีแท้จริงบานแล้วอยู่ได้หลายวันทีเดียว
Lily เป็นต้นไม้กระถางที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่ง นอกจากจะสวยทนนานแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆด้วยเช่นหัวของ Madonna lilyชาวกรีกและโรมัน นำใช้มาคั้นทำน้ำมันในเชิงยารักษาโรคด้วย
ในสมัยยุคกลางจิตรกรเขียนภาพMadonna lilyไว้ในภาพเขียนของthe Virgin Mary เป็นสัญญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ และใน East Asiaมีการปลูก lilyไว้เพื่อทำเป็นทั้งอาหารและปลูกเพื่อเป็นดอกไม้ประดับ

อาหารเมนูโปรดของนักศึกษา

นักศึกษา เป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีเวลามากนัก ได้ออกมาพักไม่เท่าไร ก็จะถึงเวลาเรียนอีกช่วงหนึ่งแล้ว ดังนั้นอาหารจำพวกก๋วยเตี๋ยวต่างๆ จึงเป็นเมนูที่เป็นเมนูโปรดของพวกเขาเลย
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูอาหารจานด่วนของโปรดชามเดียวอิ่ม ขอขนมตามอีกสักถ้วยก็เยี่ยมเลย เป็นเมนูที่โต้รุ่งหรือตามบุฟเฟ่ต์โรงแรมมีเหมือนๆกัน แต่ราคาต่างกันมาก
ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นเส้นยาว ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าเป็นส่วนใหญ่ อร่อยแต่ไม่ค่อยอิ่มท้องเหมือน กินข้าว ก๋วยเตี๋ยวมีมานานมาก พบว่าประมาณสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ไทยติดต่อกับชาวต่างชาติมาก ชาวจีนก็ได้นำเอาก๋วยเตี๋ยวเข้ามากินในเรือ คงเป็นต้นตำรับก๋วยเตี๋ยวเรือ ตั้งแต่นั้นมา ก๋วยเตี๋ยวมีหลายชนิด วุ้นเส้นเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวทำจากแป้งถั่วเขียว ลักษณะเด่นมีความใสคล้ายวุ้น คนชอบกินเชื่อว่าไม่อ้วน
นอกจากนี้ มีบะหมี่ ลักษณะเฉพาะตัวคือจะมีส่วนผสมของไข่จึงมีสีเหลือง ก่อนนำมาลวกจะต้องยีให้ก้อนบะหมี่คลายออก เพื่อไม่ให้เส้นติดกันเป็นก้อน ถ้าเป็นสีเขียว จะเรียกว่า "บะหมี่หยก" ซึ่งมีลักษณะเหมือนบะหมี่ธรรมดาทุกประการแต่จะใส่สีผสมอาหารให้เป็นสีเขียว มักจะนำไปใช้เป็นเส้นของ บะหมี่หมูแดง เย็นตาโฟ และบะหมี่เป็ด
ก๋วยจั๊บ เส้นมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยม เมื่อนำไปต้มในน้ำร้อนก็จะม้วนตัวเป็นหลอ  ภาพในถ้วยสีเขียว คือกวยจั๊บญวณ
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นที่นิยมกันมาก แต่ไม่มีประโยชน์ มีแต่แป้งและผงชูร
ยังมี
เกี๊ยมอี๋ ลักษณะคล้ายลอดช่อง มีสีขาว มักทำเป็นก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยมอี๋ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมมากนัก
IMG_1691 127262515 131044849 IMG00439-20100717-1926
ส่วน น้ำแดงโซดา เด็กๆชอบ วัยรุ่นก็ชอบ ยังอร่อยมาจนทุกวันนี้เข้ากันดีกับพวกลาบส้มตำข้าว เหนียวของหวานๆช่วยลดความเผ็ดลงได้มาก แต่ดื่มบ่อยๆไม่ดีแน่เพราะอ้วนแน่นอน หวานซะขนาดเนี้ย  ส่วนขนมไทยถ้วยนี้  ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าว/ข้าวเหนียวมักจะมีสี กลิ่นหอมจากธรมชาติ บางทีจะมีมะพร้าว ไข่ น้ำตาลประกอบด้วย ในภาพมีมะพร้าวอ่อนผสมในขนม เป็นของหวานแก้เผ็ดได้ดี

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวดี..ของประเทศไทยจากข่าวในมติชนออนไลน์ 14-07-2553

View from the garden Fruits  Another_Botanical_Garden_in_Bangkokmy fruits
"กทม."คว้ารางวัลเมืองน่าท่องเที่ยวที่สุดในโลกปี2010 "เชียงใหม่"อันดับ2 ชี้ได้เพราะปิดโหวตแค่มี.ค.53

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นประจำทุกปีที่ นิตยสารเทรเวล แอนด์ เลชเชอร์ (Travel & Leisure ) นิตยสารด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ในเครือของ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (American Express) จะทำการประกาศผลหลังจากที่ทำการออกแบบสอบถามผู้อ่านให้จัดลำดับแบ่งตามประเภทรางวัล อาทิ เมืองที่ดีที่สุด หมู่เกาะที่ดีที่สุด โรงแรมที่ดีที่สุด สายการบินนานาชาติที่ดีที่สุด เป็นต้น

สำหรับรางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดประจำปี 2010 ของทางนิตยสารนี้ คือ
รางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของโลก หรือ  World’s Best Award ประจำปี 2010 ได้แก่
1. กรุงเทพมหานคร
2. เชียงใหม่ ของประเทศไทย
3. ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ตามลำดับ

ทั้งนี้การพิจารณาเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลกจะพิจารณาจาก
1. สถานที่ ทัศนียภาพ ความสวยงามและร่มรื่น
2. ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี
3. อาหารการกิน
4. แหล่งช็อปปิ้ง
5. ความเป็นมิตรของผู้คน
6. ความคุ้มค่าของเงิน

ส่วนรางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของเอเชียเรียงตามลำดับคือ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ประเทศไทย และ เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

ข่าวแจ้งว่า คาดว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. จะเดินทางพร้อมคณะเพื่อไปรับรางวัลดังกล่าวที่จะจัดขึ้น ณ โรงแรม The Trump Soho เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้

สำหรับรางวัลเมืองน่าท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก ของนิตยสารดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ในปี 2008กรุงเทพมหานคร ก็เคยได้ครองแชมป์ เหนือเมือง บัวโนส ไอเรส แห่ง อาร์เจนติน่า และ เคป ทาวน์ แห่งแอฟริกาใต้ มาแล้ว ซึ่งนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.ในสมัยนั้นก็ได้เดินทางพร้อมคณะไปรับรางวัลดังกล่าว

ขณะที่ตำแหน่งเมืองน่าเที่ยวระดับโลก ในปี 2009 กรุงเทพฯ ตกมาอยู่อันดับที่ 3 รองจาก เมืองอุไดเปอร์ ประเทศอินเดีย และเคปทาวน์ แห่งแอฟริกาใต้ ตามลำดับ ส่วนเมืองน่าเที่ยวแห่งเอเชีย นั้นกรุงเทพฯ อยู่อันดับที่สอง และเชียงใหม่อยู่ดับดับที่สาม ส่วนที่หนึ่งตกเป็นของเมืองอุไดเปอร์ ประเทศอินเดีย

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ว่า รู้สึกดีใจที่ได้รางวัลนี้ และจะเดินทางไปรับรางวัลด้วยตัวเอง ส่วนเหตุผลที่กทม. ยังได้รางวัลอันดับ1เมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกและเอเชีย ทั้งๆที่ ปีนี้มีข่าวการชุมนุมทางการเมืองตลอดทั้งปี ผู้วาฯ กทม. กล่าวว่า ถือเป็นความโชคดีที่นิตยสารดังกล่าวปิดโหวตไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นมีการชุมนุมทางการเมืองในประเทศไทย